ศิลปะนามธรรม ใช้ความรู้สึกมากกว่าสายตา

Abstract-art

ศิลปะนามธรรม หรือ Abstact Art เป็นศิลปะที่เข้าถึงได้ยาก ไม่มีหลักการชมภาพตายตัว สามารถตีความหมายได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคนชมภาพว่าในขณะนั้นมีอารมณ์ไหน ศิลปินที่วาดภาพแนวนี้จะมีมากมาย หรือบางครั้งเรียกได้ว่าเป็นลัทธิหนึ่งเลยก็ได้ เพื่อให้การชมภาพได้ชัดเจนขึ้น ลองมาดูตัวอย่างของรูปแบบการวาดภาพของศิลปินแนวศิลปะนามธรรมกันดู

  1. รูปทรงเลขาคณิต

การวาดรูปแนวทรงเลขาคณิตจะเน้นไปทางจัดองค์ประกอบ สัดส่วน ให้ดูมีสมมาตรกัน หรือจะไม่สมมาตรก็ได้ จึงทำให้นำไปประยุกต์กับงานอื่นได้ไม่ยาก นั่นเป็นเพราะศิลปะนามธรรมรูปทรงเลขาคณิตมีความเรียบง่าย ไม่ต้องใช้จินตนาการในการชมมากเท่าไหร่ เมื่อมองแล้วทำความเข้าใจได้ทันที มักจะถูกนำไปเป็นต้นแบบสร้างสรรค์ผลงานได้หลายด้าน เช่น แฟชั่น สถาปัตยกรรม หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น

  1. รูปทรงอิสระ

ศิลปะนามธรรมแนวนี้จะไม่มีองค์ประกอบตายตัวมากนัก แล้วแต่จิตนาการของศิลปินที่จะวาดสื่อให้ผู้ชมภาพตีความหมายตามความเข้าใจ จะเน้นลักษณะที่ตื่นตาตื่นใจมากกว่ารูปทรงเรขาคณิต มีความซับซ้อน เมื่อชมในครั้งแรกจะรู้สึกแปลกตา หรือมองว่าไม่สมประกอบ ไม่สามารถอธิบายได้ว่าภาพที่เห็นคือรูปอะไร มีความหมายอย่าไร ทุกอย่างคือการมีอิสระต่อกัน

  1. แบบ Minimalist

แนวนี้จะไม่เน้นการใช้ภาพวาดที่เป็นรูปทรง แต่จะเป็นการใช้สีสดๆ ทาลงไปบนภาพ คล้ายๆ กับการทำภาพพื้นหลัง มองภายนอกเหมือนภาพจะดูไม่มีอะไรเพราะเป็นการวาดสีลงไป และใช้เส้นตรงขีดคั้นไว้ทั้งแนวตั้งหรือแนวนอน ความน่าสนใจของภาพอยู่ที่ศิลปินกล้าวาดสีลงไป ซึ่งแสดงออกถึงความตรงไปตรงมาในการแสดงผลงาน แถมสีที่ใช้วาดลงไปยังบอกเล่าความรู้สึกของศิลปินในตอนที่วาดได้ เช่น หากใช้สีสันสดใส แสดงถึงช่วงอารมณ์ที่มีความสุข สดใส

  1. แบบซับซ้อน

ลักษณะของงานงานแนวนี้จะมีความสลับซับซ้อน ไม่มีการวางระเบียบแบบแผนที่แน่นอน ใช้สีสันให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่เน้นการจัดวางองค์ประกอบ สัดส่วน มองแล้วอาจดูไม่สวยงามเสียเท่าไหร่ แต่ส่งผลทางด้านอารมณ์ที่ดูรุนแรง เพราะใช้เทคนิคการวาดทั้งการเทสี สลัดสี สาดสี และหยดสี หรือสรุปสั้นได้ว่าเป็นการวาดตามอารมณ์ของศิลปินนั่นเอง

ผลงานศิลปะนามธรรมทั้ง 4 แบบนี้เป็นแค่ตัวอย่างที่พอจะสื่อให้เห็นว่าความหมายที่แท้จริงของศิลปะนามธรรมคือ การสร้างสรรค์โดยใช้จินตนาการ ความรู้สึก อารมณ์ และไม่มีองค์ประกอบที่เด่นชัด แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำศิลปะนามธรรมนี้ไปต่อยอดผลงานด้านอื่นๆ ได้อีกมากมาย